วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Porsche 911 Carrera S รถสปอร์ตแห่งตำนาน


 รถสปอร์ตสุดคลาสสิคจากปอร์เช่อย่าง 911 Carrera เจเนอเรชั่นที่ 7 ใหม่นี้ ที่คว้ารางวัลอันทรงเกียรติมากมายเป็นเครื่องหมายการันตีความเหนือชั้น อาทิเช่น “Golden Steering Wheel 2011” หรือ พวงมาลัยทองคำประจำปี 2011 สำหรับรุ่นรถสปอร์ตจากผู้อ่าน Springer Verlag’s pan-European ที่เข้าร่วมโหวตจากนานาชาติกว่า 20 ประเทศเป็นต้น

Porsche 911 Carrera S ได้สร้างตำนานให้กับวงการรถสปอร์ตมาอย่างต่อเนื่องกว่า 48 ปี และวันนี้พร้อมแล้วที่จะมาอวดโฉม 911 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่สดใหม่ได้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งการออกแบบใหม่นี้ทำตามไอคอนความเป็นสปอร์ต ไฟหน้าที่โฉบเฉี่ยว ตัวถังที่ยาวขึ้นและดีไซน์ที่ได้รับการลงรายละเอียดในทุกชิ้นส่วน หากแต่ยังคงความเป็น 911 ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่นุ่มนวลหากแต่ดูแล้วเต็มไปด้วยขุมพละกำลังและความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์นั่นเอง

ฐานล้อได้รับการขยายให้กว้างขึ้น  และลดระดับตัวรถให้ต่ำลงเพื่อรับกับการติดตั้งล้อ 20 นิ้วได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความโดดเด่นให้กับรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่ง ในขณะเดียวกันรูปลักษณ์ภายนอกยังคงไว้ซึ่งความกระทัดรัดตามรูปแบบความเป็นรถยนต์สปอร์ตทุกประการ การออกแบบหน้ารถให้ดูมีมิติที่กว้างขึ้นช่วยสร้างความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน การเพิ่มความกว้างให้กับด้านหน้ารถทำให้  Porsche 911 Carrera S ใหม่ล่าสุดคันนี้ สามารถทรงตัวอยู่บนถนนได้อย่างดีเยี่ยม กระจกมองข้างได้รับการออกแบบใหม่ โดยติดตั้งเข้ากับด้านบนของประตูรถ ซึ่งช่วยให้เกิดทัศนะวิสัยในการมองที่ดีขึ้นและความสมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงการออกแบบที่ลงตัวและสร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นอีกด้วย

 Porsche 911 Carrera S ใหม่ล่าสุดมาพร้อมกับตัวรถที่มีน้ำหนักเบาและทำจากเหล็กอลูมิเนียมที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม ส่งผลให้น้ำหนักตัวรถลดลง  ตัวรถมีความกว้างขึ้นและสปอยร์เลอร์หลังได้รับการขยายเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของรถยนต์ให้สมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์ให้ได้มากที่สุด อีกทั้งยังส่งผลให้การยกตัวที่เกิดจากลมทางด้านล่างของ  Porsche 911 Carrera S ใหม่ล่าสุดนี้ลดลงในขณะที่รักษาสัมประสิทธิ์ความเสียดทาน Cd ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
 

เพื่อความลงตัวและเข้ากับรูปลักษณ์ภายนอกที่มีความทันสมัย นักออกแบบของปอร์เช่จึงนำรูปแบบภายในของ Carrera GT มาใช้เป็นไอเดียในการออกแบบภายในห้องโดยสารหรือภายในตัวรถ การออกแบบห้องโดยสารในรูปแบบนี้ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งต้องขอบคุณต่อคอนโซลกลางที่ได้รับการออกแบบให้เชื่อมต่อไปจนถึงคอนโซลทางด้านหน้า ตำแหน่งของก้านเกียร์และคันเกียร์ได้รับการปรับเปลี่ยนให้อยู่สูงขึ้นและใกล้กับพวงมาลัยให้มากขึ้นตามรูปแบบของความเป็นมอเตอร์สปอร์ต ความคลาสสิคของปอร์เช่ยังได้รับการเติมแต่งเข้าไปในห้องโดยสารอย่างครบครัน อาทิเช่น หน้าปัดรถที่มีห้าวง หนึ่งในนั้นเป็นหน้าจอที่มีความละเอียดสูงและแสดงผลการทำงานได้หลายระบบซึ่งจะติดตั้งอยู่ตรงกลางเพื่อแสดงผลของรอบเครื่องยนต์

 ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ใน Porsche 911 Carrera S ใหม่ล่าสุดนี้ได้รับการเพิ่มเติมเพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการรถสปอร์ตเหมือนกับความสำเร็จที่เคยได้รับอย่างที่ผ่านๆ มา ทุกรุ่นมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่น้อยกว่า 10 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและอัตราการปล่อยมลพิษของ 911 ใหม่นี้ถือได้ว่าลดลงถึง 16 เปอร์เซ็นต์หากเทียบกับรุ่นเก่าเลยทีเดียว และประสิทธิภาพของอัตราที่เหนือชั้นเหล่านี้ได้มาจากระบบการทำงานต่างๆ ที่ถูกติดตั้งให้กับรถ 911 ใหม่คันนี้ อาทิเช่น ระบบสตาร์ต/หยุด อัตโนมัติ (Auto start/stop) ระบบการจัดการความร้อน (Thermal management) ระบบ  electrical system recuperation หรือระบบการนำพลังงานไฟฟ้ากลับมาใช้ใหม่ และระบบเกียร์ธรรมดา 7 จังหวะที่ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะจากปอร์เช่ Porsche-Doppelkupplungsgetriebe (PDK) นั่นเอง ระบบพวงมาลัยแบบ electro-mechanical power steering ใหม่ล่าสุดยังส่งผลให้ปอร์เช่คันนี้มีความแม่นยำและให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ควบคู่ไปกับการลดการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย
 

 Porsche 911 Carrera S มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 3.8 ลิตรเครื่องยนต์ลูกสูบเรียงนอนซึ่งมีขุมพลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 400 แรงม้า ที่ 7,400 รอบ  แรงบิดสูงสุดที่ 440 นิวตันที่ 5,600 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ PDK 7 สปีด ช่วยให้อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงจะลดลง หากเทียบกับรุ่นเดิม  ในขณะที่กำลังของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นถึง 15 แรงม้าเลย ส่วนอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นถือได้ว่าต่ำมากนั่นคือ 205 กรัมต่อกิโลเมตรเพียงเท่านั้น 

Porsche 911 Carrera S สามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาเพียงแค่ 4.3 วินาทีเท่านั้น และเลือกกดปุ่ม สปอร์ต พลัส (Sport Plus button) จะทำให้ลดเวลาลงเหลือแค่เพียง 4.1 วินาทีเท่านั้น

 

Porsche 911 Carrera S ใหม่ล่าสุดนี้ไม่เพียงแค่มีประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น หากแต่ยังเพิ่มความคล่องตัวและความว่องไวในการขับขี่ได้มากขึ้นอีกด้วย นอกเหนือจากฐานล้อที่ขยายใหญ่ขึ้นแล้ว การยึดเกาะถนนยังเพิ่มมากขึ้น และเน้นในเรื่องของความแม่นยำและการทรงตัวที่ดีเยี่ยมด้วยเช่นกัน อีกทั้งความกว้างของด้านหน้ารถที่ขยายเพิ่มขึ้นรวมถึงเพลาด้านหลังที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่และระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแบบ electro-mechanic อีกด้วย  เพิ่มความคล่องตัวให้กับรถมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการควบคุมการทรงตัวหรือ ระบบ Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) ระบบนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความคล่องตัวให้กับรถมากขึ้น อาทิเช่น การลดความโน้มเอียงทางด้านข้างขณะเข้าโค้ง ล้อจะอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมจึงสามารถทำงานได้อย่างเต็มพิกัดและสามารถส่งผ่านแรงดันทางด้านข้างได้มากที่สุด จึงเพิ่มความเร็วขณะเข้าโค้งได้ทำให้สามารถทำเวลาในสนามแข่งได้เร็วยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน  

 
 




















 


Ferrari F12 Berlinetta

Ferrari F12 Berlinetta แรง สวย สุดแกร่ง

 




เครื่องยนต์ F12 berlinetta

ประเภท –  V12-65 องศา
ปริมาตร –  
6262 ซีซี
กำลังไฟฟ้าสูงสุด –
 740 CV ที่ 8500 รอบต่อนาที
consumption and Emissions (การกินน้ำมันเชื้อเพลิงและการปล่อยมลพิษ)

Consumption (อัตราการกินน้ำมัน) 15 ลิตร / 100 กิโลเมตร
CO2 emissions (อัตราการปล่อย CO2) 350 กรัม / กิโลเมตร

ราคา Ferrari F12 Berlinetta 14.8 ล้านที่อิตาลี  เข้ามาถึงไทย ประมาณ 45 ล้านบาท

รายละเอียด Ferrari F12 berlinetta 

F12 Berlinetta  


ถูกขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ V12 กับการส่งออกที่น่าประทับใจจาก 740 HP – เพิ่มขึ้นจาก 120 HP มากกว่าหน้าที่ 599 gtb Fiorano การเพิ่มขึ้นของอำนาจนี้ยังมาพร้อมกับการลดลงของการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉพาะการลด 30% มีน้ำหนักรวมเพียง 3,362 £, F12berlinetta จะวิ่งจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3.1 วินาทีในขณะที่ความเร็วสูงสุดไปได้ถึงกว่า 211 ไมล์ Ferrari ยังได้ประกาศว่ารูปแบบใหม่ lapped วงจร Fiorano ใน 1:23, ได้เร็วขึ้นกว่าใด ๆ ที่อื่น ๆ ถนนรถ Ferrari
Ferrari ได้เปิดตัวเพียงวิดีโอใหม่เนื้อเรื่องไม่กี่นัดจากไดรฟ์นานาชาติทดสอบสื่อที่อุทิศตนเพื่อ F12berlinettaกลุ่มแรกของนักหนังสือพิมพ์ที่เฉพาะจากทั่วทุกมุมโลกก็สามารถที่จะได้รับการขึ้นใกล้ชิดและการส่วนบุคคลที่มีรถแบบรถสปอร์ตม้า Prancing ใหม่ล่าสุดของ, เป็นหัวหอกในของคนรุ่นใหม่ของเฟอร์รารี 12 ถัง- ในขณะเดียวกัน Scuderia Ferrari ไดรเวอร์เฟอร์นันโดอลอนโซ่และ Felipe Massa ยังอยู่ในมือที่จะได้รับกลับล้อหลังของ F12 เพื่อความสนุกสนานเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตัวเอง เราได้เพิ่มนอกจากนี้ยังชุดใหม่ของภาพที่เนื้อเรื่องที่ใหม่ F12 Berlinetta ในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของมัน

ตัวถังของFerrari 


ยังต้องได้รับการแก้ไขเพื่อที่จะทนต่ออำนาจที่เพิ่มขึ้นของรถสปอร์ตใหม่ Scaglietti บทบาทที่ได้รับการออกแบบและตัวถัง spaceframe ใหม่ทั้งหมดและใช้ bodyshell 12 ชนิดที่แตกต่างกันของโลหะผสม โลหะผสมเหล่านี้ถูกรวมเข้าด้วยกันโดยใช้เทคนิคใหม่ที่ได้รับอนุญาตให้เพิ่มขึ้น 20% ในความแข็งแกร่งของโครงสร้างและการลดน้ำหนักลงไป 1,525 ปอนด์ kg/3362 (70 kg/154 ปอนด์น้อยกว่าหน้าที่ V12 Coupé)

ขนาดและน้ำหนัก  F12 Berlinetta

ความยาว: 4618 มม.
ความกว้าง: 1942 มม.
ความสูง: 1273 มม.
น้ำหนักแห้ง: 1525 kg/3362 ปอนด์
การกระจายน้ำหนัก: ด้านหน้า 46% ด้านหลัง 54%
อัตราส่วนน้ำหนักพลังงาน: 2.1 กก. / CV






Mobile Suit Gundam 00


โมบิลสูทกันดั้มดับเบิลโอ (ญี่ปุ่น: 機動戦士ガンダム00 [Kidō Senshi Gandamu Daburuō] ) (Eng: Mobile Suit Gundam 00) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น 1 ในซีรีส์ กันดั้ม เริ่มออกอากาศครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ถึง 29 มีนาคม พ.ศ. 2551 มีความยาวทั้งหมด 25 ตอน และมีกำหนดการที่จะออกอากาศซีซันที่ 2 ต่อ หลังจากเว้นระยะเวลาไปช่วงหนึ่ง

เรื่องย่อ

โมบิลสูท กันดั้ม ดับเบิลโอ ซึ่งเป็นภาคใหม่ของซีรีส์กันดั้มนี้ ได้รับความเห็นว่าเป็นภาคที่แตกต่างไปจากภาคอื่นๆ เนื่องจากการดำเนินเรื่องที่เข้มข้นและหม่นหมอง ต่างกับภาคอื่นที่แทรกความหวังและความสดใส เนื่องจากตัวหลักของภาคนี้แทบทุกคนล้วนประสบกับอดีตที่มีแต่ความเป็นความตาย เช่น เซ็ตซึนะ เอฟ เซเอ ที่ต้องทำสงครามแต่ยังเด็ก ดังนั้นอารมณณ์ที่ตัวละครแสดงออกมาจึงเป็นแบบผู้ใหญ่ ไม่แสดงท่าทีอ่อนประสบการณ์หรือความลังเลที่จะสังหารคนในสงคราม รวมทั้งทัศนคติที่ตัวหลักมีต่อคนที่ไม่อยากทำสงครามด้วย เช่น การที่เซ็ตซึนะกล่าวกับซาจิ ครอสโร้ดว่า หากต้องการความสงบสุข จะต้องต่อสู้และฆ่าคนต่อไปเพื่อจบสงคราม ไม่ใช่เลือกวิธีสันติหรือการปรองดองเพื่อสันติภาพ

Season 1

หนังการ์ตูนเรื่องนี้เริ่มต้นโดยมีฉากเบื้องหลังคือโลกในปี A.D. (คริสต์ศักราช) 2307 มนุษย์ได้คิดค้นสร้างลิฟต์ขึ้นสู่วงโคจรนอกอวกาศและระบบผลิตพลังงานแสง อาทิตย์นอกชั้นบรรยากาศโลก และเริ่มใช้จริงเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานทดแทนน้ำมันที่ถูกขุดขึ้นมาใช้จน เกือบหมด แต่ในการก่อสร้างระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และลิฟต์อวกาศนั้นจำเป็นต้องใช้ เงินลงทุนและทรัพยากรในการก่อสร้างอย่างมหาศาล ซึ่งผู้ที่ถือครองกรรมสิทธิ์และได้รับผลประโยชน์นั้น มีเพียง 3 ขั้วมหาอำนาจเท่านั้น ได้แก่
Union (Union of Solar Energy and Free Nations)
นำโดยสหรัฐอเมริกา มีสมาชิกคือ
  • กลุ่มประเทศในอเมริกากลาง ได้แก่ บาฮามาส, คิวบา, จาเมกา, เฮติ, โดมินิกัน, ปานานมา, และประเทศอื่นๆ
  • กลุ่มประเทศในอเมริกาใต้ ได้แก่ โคลัมเบีย, เวเนซุเอลา, กายอานา, ซูรินาเม, เฟรนซ์ เกียนา, บราซิล, เอกวาดอร์, เปรู, โบลิเวีย, ปารากวัย, อุรุกวัย, อาร์เจนตินา, และ ชิลี
  • บริเวณอื่น ได้แก่ เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย แคนาดา และ ญี่ปุ่น
HRL (Human Reform League)
นำโดยจีน รัสเซีย อินเดีย มีสมาชิกคือ
  • ประเทศในเอเชียตะวันออก ได้แก่ เกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, มองโกเลีย
  • ประเทศในเอเชียใต้ ได้แก่ บังกลาเทศ, ศรีลังกา, เนปาล และ ภูฏาน (ยกเว้นปากีสถาน กับ อัฟกานิสถาน)
  • ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ พม่า, เวียดนาม, ลาว, ไทย, กัมพูชา, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, บรูไน และ ติมอร์เลสเต
  • บริเวณอื่นๆ ได้แก่ ปาปัวนิวกินี
AEU (Advanced European Union)
มีสมาชิกคือ ไอซ์แลนด์, หมู่เกาะ ในทะเล บาเรน, กรีนแลนด์, แอนนาโทเลีย, รัสเซีย (ส่วนที่อยู่ในยุโรป), และประเทศที่อยู่ในยุโรปทั้งหมด
ถึงแม้ทั้งสามขั้วมหาอำนาจจะไม่ก่อสงครามต่อกันถึงขั้นแตกหักต่อกันก็ตาม ต่างฝ่ายต่างก็แข่งขันกันคิดค้นพัฒนายุทโธปกรณ์ทางการทหารกันอย่างไม่ยั้ง มือ เกิดเป็นสงครามเย็นที่ดูเหมือนจะเป็นเช่นนี้ต่อไปโดยไม่มีวันจบ ส่วนประเทศขนาดเล็กที่ไม่ได้เข้าร่วมขึ้นอยู่กับขั้วมหาอำนาจใดเลย ต้องตกอยู่ในสภาวะยากไร้ขาดแคลน มีการต่อสู้แย่งชิงและเกิดสงครามภายในประเทศขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
ในยุคแห่งความวุ่นวายสับสนเช่นนี้ องค์กรลับนาม เซเลสเชียลบีอิง ได้ถือกำเนิดขึ้นมาโดยมีเป้าหมายเพื่อการต่อต้านและหยุดยั้งสงครามทุกรูปแบบ ที่เกิดขึ้นในโลก โดยมีคติว่า "เราจะหยุดสงครามด้วยสงคราม" โดยใช้อาวุธที่ใช้เตาพลังงานแสงอาทิตย์ GN ไดรฟ์ นาม "กันดั้ม" ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าอาวุธในปัจจุบัน เพื่อการดำเนินแผนการณ์ตามอุดมการณ์ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

Season 2

ปีคริสต์ศักราช 2312 ภายหลังสงครามครั้งใหญ่ระหว่างเซเลสเชียลบีอิงกับกองกำลังสามขั้วอำนาจโลก เหล่าขั้วอำนาจได้รวมตัวกันก่อตั้งสหพันธ์โลกขึ้นมา ซึ่งมีกองกำลังของตนเองเพื่อความมั่งคงและการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในโลก และได้มีการก่อตั้งกองกำลังอิสระนามว่า A-laws ซึ่งมีหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาความสงบเรียบร้อยของโลกใบนี้ หากแต่เบื้องหลังนั้น A-laws เป็นกำลังที่จะกำจัดผู้ที่ขัดขืนต่อต้านสหพันธ์โลกด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมและ เด็ดขาด เหล่าผู้คนที่ไม่พอใจต่อการกระทำนี้จึงรวมตัวกันก่อตั้งกองกำลังต่อต้านใน นาม "คาตารอน" (Kataron) ขึ้นมาเพื่อต่อสู้ ทำให้โลกยังไม่อาจจะพบสัญญาณแห่งความสงบสุขได้เลย และภายใต้ความสับสนวุ่นวายที่กำลังคุกรุ่นอยู่ตอนนี้นั้น กองกำลัง
เซเลสเชียลบีอิงซึ่งได้รับการฟื้นฟูขั้นใหม่ได้พร้อมที่จะแสดงตนเอง เพื่อยับยั้งสงครามครั้งใหม่นี้อีกครั้ง


เซ็ตซึนะ เอฟ เซย์เอย์ (Setsuna F. Seiei)



อายุ 16 ปี / 21 ปี (ซีซั่น 2) / 23 ปี (Movie) / 73 ปี (Movie Epilogue)
กันดั้มไมสเตอร์ของกันดั้มเอ็กเซีย มีชื่อเดิมว่า "โซรัน อิบราฮิม" เกิดและเติบโตอยู่ในเขตปกครองตนเองเคอร์ดิช แถบตะวันออกกลางท่าม กลางไฟสงคราม โดยเขาได้ถูกยุยงให้สังหารบุพการีของตนเอง เพื่อจะได้เข้าสู่กองกำลังของพระเจ้า ตามคำกล่าวอ้างของอาลี ผู้นำขององค์กรก่อการร้าย KPSA และต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดอยู่ตลอดมา จนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือจากกันดั้มในสงครามระหว่างเคอร์ดิชกับอาซา ดิสถาน มีอุปนิสัยเป็นคนที่ชอบเก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใครไปมากกว่าในเรื่องภารกิจ และยึดมั่นในตนเองที่จะเป็นดั่งกันดั้ม ซึ่งเขาถือว่าเป็น "พระผู้ช่วยให้รอด" เขาจึงอยากที่จะเป็นอย่างกันดั้มเพื่อคอยช่วยเหลือผู้อื่น จนบางครั้งความต้องการนี้ทำให้เขาเผลอขัดคำสั่งหรือทำตามอำเภอใจตนเองไป
ในการรบครั้งใหญ่จากการรวมตัวกันของสามขั้วอำนาจ เขาได้เผชิญหน้ากับอาลี และเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เพราะความเหนื่อยอ่อนจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ จนไม่มีเรี่ยวแรงเหลือพอที่จะทำอะไรได้ แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากกันดั้มโทรเน่ไดร เซ็ตสึนะเริ่มไม่พอใจต่อการกระทำของสามพี่น้องทรีนิตี้ที่เข้าแทรกแซงอย่าง รุนแรงเกินกว่าเหตุ จนในที่สุดก็ทำให้เขาต้องขึ้นขับกันดั้มเพื่อยับยั้งและทำลายเหล่าพี่น้อง ทรีนิตี้ซึ่งถือว่าเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งที่แท้จริง และได้รับการช่วยเหลือจากล็อกออนและทีเอเรียในการต่อสู้ จนเหล่าพี่น้องทรีนิตี้ต้องล่าถอยไป ก่อนที่ตัวเขาจะปรับความเข้าใจกับล็อกออน และในช่วงที่เกิดการรุกหนักของกลุ่ม 2 ขั้วอำนาจ เขาได้เข้าต่อสู้ร่วมกับกันดั้มไมสเตอร์คนอื่นๆ จนกระทั่งศัตรูล่าถอยไป
เซ็ตสึนะได้เผชิญหน้ากับอาลีซึ่งได้ชิงเอากันดั้มโทรเน่ซไวมา จนอยู่ในสภาวะเสียเปรียบ กระทั่งเมื่อเวด้าช่วยเปิดระบบ Trans-Am ส่งผลให้เครื่องเอ็กเซียแสดงพลังที่แท้จริงออกมา เขาจึงสามารถขับไล่อาลีกลับไปได้ในที่สุด จากนั้นก็ร่วมกับกันดั้มไมสเตอร์ที่เหลือเพื่อต่อกรกับกองกำลังของสหประชา ชาติจนสำเร็จ แต่เซ็ตซึนะก็หลั่งน้ำตาให้กับการสูญเสียล็อกออน ผู้ที่เปรียบเสมือนเพื่อนและพี่ชายคนหนึ่งของเขาที่ไม่อาจจะหาสิ่งใดมาทดแทน ได้ ก่อนที่เขาจะเข้ารับมือกับการบุกระลอกสองของกองกำลังสหประชาชาติ และเข้าลุยเดี่ยวกับ MA Alvatore ของอเลฮานโดร คอร์เนอร์ จนสามารถทำลายลงได้ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากรับมือกับ GN-Flag ของเกรแฮม เอเคอร์
ในเนื้อหา season 2 นั้น ปรากฏว่าเขารอดชีวิตและเก็บตัวเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของสหพันธ์โลกอยู่อย่าง เงียบๆ จนกระทั่งปรากฏตัวขึ้นที่พราวด์เพื่อขัดขวางแผนการของA-Laws และได้ช่วยเหลือซาจิ ครอสโร้ดจากกลุ่ม A-Laws แต่กองกำลังที่ขัดขวางเขานั้นเป็นโมบิลสูท Ahead และ GN-XIII ซึ่งเป็นโมบิลสูทรุ่นใหม่ ทำให้ต่อสู้ได้อย่างยากลำบาก แต่สุดท้ายได้รับการช่วยเหลือจากกันดั้มเซราวีของทีเอเรียที่มาตามพิกัดจาก ยานปโตเลไมออสที่ตรวจหาเซ็ตซึนะพบ และทีเอเรียได้รับตัวเขากลับไปปโตเลไมออส2 เขานำ GN-Drive ของเอ็กเซียไปติดตั้งที่กันดั้มOO(ดับเบิลโอ) ทำให้กันดั้มOO ทำงานได้ และเซ็ตสึนะได้กลายมาเป็นนักบินของ OO
เซ็ตซึนะที่รอดชีวิตจากสงครามในภาคแรกมาได้มีความเคร่งขรึมและเยือกเย็น ตามวุฒิภาวะที่เติบโต แต่เปิดใจให้กับเหล่าลูกเรือและเพื่อนไมสเตอร์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีความมุ่งมั่นที่จะขจัดสงครามกว่าเดิมและเป็นเหมือนศูนย์กลางของพวกพ้อง อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ยอมรับว่าตนเองมีใจให้มารีน่า อิสมาอิล และยังปฏิเสธคำถามว่าทั้งคู่เป็นคนรักกัน
ในที่สุด ในตอนที่ 24 ของ ซีซันที่ 2 เขาได้พัฒนาร่างกายของเขาเป็น "อินโนเวเตอร์ (Innovator)" โดยธรรมชาติ มีความสามารถคล้ายกันกับพวกอินโนเวท แต่เซ็ตสึนะสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกของคนรอบข้างได้โดย GN Particles และคลื่นสมองจัดอยู่ใน A-Class ซึ่งแข็งแกร่งกว่าพวกอินโนเวทใน B-Class และ ทหารดัดแปลง ใน C-Class
ในภาคภาพยนตร์ เซ็ตซึนะเป็นคนจัดทีมกันดั้มไมสเตอร์ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเข้าร่วมและยับยั้งสงครามครั้งสุดท้าย เขาตื่นขึ้นในฐานะอินโนเวเตอร์สายพันธุ์บริสุทธิ์ และได้ขับกันดั้มดับเบิลโอตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเอ็กเซียที่ออกแบบ มาเพื่อให้อินโนเวเตอร์เป็นคนขับ คือ ดับเบิลโอควอนต้า
ล็อกออน สตราทอส (Lockon Stratos)
 
ล็อกออน สตราทอส เป็นชื่อรหัสของกันดั้มไมสเตอร์ 2 คน ซึ่งเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน คนพี่มีชื่อเดิมว่า "นีล ดีแลนดี้" ส่วนคนน้องมีชื่อเดิมว่า "ไลล์ ดีแลนดี้"

นีล ดีแลนดี้ (Neil Dylandy)



อายุ 24 ปี (ซีซั่น 1)

เป็นกันดั้มไมสเตอร์ของกันดั้มดิวนาเมส เข้าร่วมกับเซเลสเชียลบีอิงหลังจากสูญเสียครอบครัวของตนในเหตุการณ์ก่อการร้ายในไอร์แลนด์เหนือ เป็นคนที่อายุมากที่สุดในกลุ่มของไมสเตอร์ และเป็นเจ้าของฮาโล่สีส้ม เป็นคนที่มีอุปนิสัยสบายๆ เป็นกันเอง และดูเรียบง่ายมากที่สุด แต่ก็เป็นคนที่มีความรับผิดชอบและเกลียดชังเหล่าผู้ก่อการร้ายเป็นอย่างมาก
ในการรบครั้งใหญ่จากการรวมตัวกันของสามขั้วอำนาจ ล็อกออนได้เผชิญหน้ากับเกรแฮมและกลุ่มคัสตอมแฟล็ก ซึ่งก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับแผนการและจำนวนของอีกฝ่ายที่เหนือกว่า และได้รับการช่วยเหลือจากกันดั้มโทรเน่ไอน์ แต่เขาก็ต้องไม่พอใจต่อการแทรกแซงด้วยความรุนแรงเกินกว่าเหตุของเหล่าพี่ น้องทรีนิตี้ไปอีกคน จนเข้าช่วยเหลือเซ็ตสึนะในการต่อสู้กับเหล่าพี่น้องทรีนิตี้ และได้รับทราบว่าเซ็ตสึนะเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์กรก่อการร้ายที่สังหาร ครอบครัวของเขา ทำให้ล็อกออนต้องปรับความเข้าใจกับเซ็ตสึนะและเข้าใจกันได้ในที่สุด แต่เขาก็ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสในการเข้าไปช่วยเหลือทีเอเรียจากการโจมตีจน ตาขวาซึ่งเป็นข้างที่เขาถนัดบาดเจ็บจนมองไม่เห็น
ในเวลาต่อมา เขาเข้าร่วมการต่อสู้ระหว่างเหล่าขั้วอำนาจและกองกำลัง GN-X แห่งสหประชาชาติ โดยได้พยายามอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อที่จะจัดการอาลีซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่ม ก่อการร้ายที่สังหารครอบครัวของเขา เขาได้เสี่ยงชีวิตออกมาจากกันดั้มและฝากให้ฮาโล่นำกันดั้มกลับไปยังปโตเล ไมออส จากนั้นจึงหาที่ซ่อนตัวเพื่อทำการเล็งกระสุนยิงจากอุปกรณ์เสริม GN Arm โดยตรง และได้ถูกอาลียิง GN Beam Rifel ของ Throne Zwei ใส่ GN Arm ระเบิด ส่งผลให้เขาถูกแรงระเบิดเสียชีวิต สร้างความเสียใจอย่างที่สุดให้กับไมสเตอร์อีกสามคนและลูกเรือปโตเลไมออส และสร้างความเสียหายให้กับแผนการที่ต้องสูญเสียไมสเตอร์ฝีมือดีไปอีกหนึ่งคน

ไลล์ ดีแลนดี้ (Lyle Dylandy)




อายุ 24 ปี (ซีซั่น 1)/ 29 ปี (ซีซั่น 2) / 31 ปี (Movie)
กันดั้มไมสเตอร์ของกันดั้มเครูดิม ปรากฏตัวครั้งแรกในอดีตของล็อกออนผู้พี่ในซีซั่นแรก ตอนที่ 9 ต่อมาในซีซั่นที่ 2 เซ็ตสึนะได้รับตัวไลล์ ซึ่งขณะนั้นเป็นสมาชิกขบวนการต่อต้านรัฐบาลโลก "คาตารอน" ให้เข้าเป็นกันดั้มไมสเตอร์ชุดใหม่ของเซเลสเชียลบีอิง โดยรับสืบทอดโค้ดเนม "ล็อกออน สตราทอส" ต่อจากพี่ชาย เขาเป็นตัวกลางระหว่างกลุ่มต่อต้านรัฐบาลคาตารอนและเซเลสเชียลบีอิง เนื่องจากทั้งสององค์กรมีเป้าหมายในการต่อต้านขั้วอำนาจใหม่ของโลกที่คล้าย คลึงกัน และได้ออกจากคาตารอนเพื่อเข้ามาเป็นสมาชิกเซเลสเชียลบีอิงเต็มตัวในช่วงท้าย เรื่อง ไลล์มีอุปนิสัยที่สบายๆและเป็นกันเองคล้ายคลึงกับนีล แต่ก็ต่อสู้โดยพยายามทำตัวให้แตกต่างจากพี่ชายของตน อย่างไรก็ตาม ก่อนจะออกไปสู้่หรือเตรียมกำจัดเป้าหมาย เขามีคำพูดติดปากแบบเดียวกับนีลคือ "จะส่องละนะ" หลังจากที่เขาถามฮาโล่ว่าเวลาพี่ชายจะออกไปสู้่ ได้พูดอะไรบ้างหรือเปล่า ในภาคภาพยนตร์จอเงิน ไลล์ได้กลับมาร่วมทีมกันดั้มไมสเตอร์อีกครั้ง และยังใช้กันดั้มของพี่ชายในการต่อสู้อยู่ เขาตัดสินใจอยู่ต่อไปในฐานะล็อกออนเพื่อสืบทอดเจตนารมย์ของพี่ชาย
อาเลลูย่า ฮาฟติซึม (Allelujah Haptism) 
 
 
 
 อายุ 19 ปี (อายุ 20 ปี ในตอนที่ 11) / 24 ปี (ซีซั่น 2) / 26 ปี (Movie)
กันดั้มไมสเตอร์ของกันดั้มคิวริออส เดิมเคยอยู่กับกองกำลังพันธมิตรฯ ในโครงการทหารดัดแปลง (ซูเปอร์โซลเจอร์) โดยมีรหัสเรียกชื่อว่า ตัวอย่างทดลองที่ E57 ซึ่งการดัดแปลงสมองของเขาเกิดความผิดพลาด ส่งผลให้เกิดบุคลิกซ้อนจนกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่มีชื่อว่า "ฮาเลลูย่า" ปกติแล้ว อาเลลูย่าเป็นคนใจดี อ่อนโยนและเยือกเย็น แต่ในยามที่ฮาเลลูย่าออกมาควบคุมร่างของเขา เขาจะกลายเป็นคนมีบุคลิกอำมหิต และชื่นชอบการฆ่าอย่างเหี้ยมโหดราวกับเป็นคนละคน อย่างไรก็ตาม ทั้งอาเลลูย่าและฮาเลลูย่าสามารถควบคุมร่างพร้อมกันได้ ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการต่อสู้ในพุ่งสูงขึ้น เพียงแต่ฮาเลลูย่าจะมีคลื่นควอนตัมในสมองต่างกับอาเลลูย่า
ในการรบครั้งใหญ่จากการรวมกันของสามขั้วอำนาจ อาเลลูย่าได้เผชิญหน้ากับโซม่า พีริส หรือมารี พาร์ฟาซี อดีตคนรักของเขาและเกิดการต่อสู้อย่างหนัก แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับจำนวนของศัตรูที่เหนือกว่าจนเขาได้รับการช่วยเหลือ จากกันดั้มโทรเน่ซไว และเริ่มแสดงความสับสนต่อการกระทำของเหล่าพี่น้องทรีนิตี้ เขาเป็นกันดั้มไมสเตอร์ที่มีการเคลื่อนไหวน้อยที่สุดในกลุ่มในช่วงหลังมานี้ จนกระทั่งเกิดการต่อสู้กันระหว่างกองกำลังของสหประชาชาติกับเหล่ากันดั้ม ทำให้เขาต้องออกรบอีกครั้ง และสามารถขับไล่กองกำลังของสหประชาชาติกลับไปได้
แต่แล้วเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับการบุกระลอกสองของกองกำลังสหประชาชาติ และเครื่องคีริออสของเขาได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการโจมตีของ MA Alvatore แต่ก็ถูก GN-X ของโซม่าโจมตีจนบาดเจ็บทำให้ตาขวาได้รับบาดเจ็บ และสูญเสียบุคลิกฮาเลลูย่าไป แต่บุคลิกดังกล่าวได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งจากการได้รับอนุภาค GN ระหว่างการทดสอบเดินเครื่องของกันดั้มดับเบิลโอและดับเบิ้ลโอไรเซอร์ในช่วง กลางของซีซั่นที่ 2 หลังจากจบสงคราม เขาปรับความเข้าใจกับโซม่า หรือมารีได้ จึงกลับมารักกันเหมือนเดิม และต่างออกเดินทางท่องเที่ยวไปรอบโลกเพื่อค้นหาความหมายของชีวิตด้วยกัน
ในภาพยนตร์จอเงิน อาเลลูย่าและมารีกลับมาร่วมทีมกันดั้มไมสเตอร์อีกครั้งหลังจากถูกโจมตีโดย โลหะประหลาดขณะท่องเที่ยวด้วยกัน แต่ได้รับการช่วยเหลือจากเซเลสเชียลบีอิ้งอย่างทันท่วงที และขึ้นขับคีริออสแบบใหม่สำหรับสองคนขับ และสามารถแยกตัวกันเป็นกันดั้มสองเครื่องได้ ทั้งอาเลลูย่าและมารีต่างมีอีกบุคลิกหนึ่งอยู่ในตัวทั้งคู่ จึงสับเปลี่ยนบุคลิกให้มีคลื่นควอนตัมออกมาจากสมองเพื่อล่อโลหะประหลาดได้
ทีเอเรีย เออร์เด้ (Tieria Erde) 
 
 
อายุ ไม่ปรากฏ
กันดั้มไมสเตอร์ของกันดั้มเวอร์ชิว เป็นเด็กหนุ่มที่มีหน้าตาสวยแบบผู้หญิง ประวัติส่วนตัวของเขาแทบทุกอย่างยังคงเป็นความลับ และเป็นบุคคลในกลุ่มเพียงจำนวนน้อยที่ได้รับสิทธิ์ในการรายงานผลงานและ เรื่องราวต่างๆแก่เวด้า ซึ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์หลักของทางเซเลสเชียลบีอิ้งได้ เป็นคนเงียบขรึมอยู่ตลอด คิดแต่จะกระทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาให้ลุล่วง จนบางครั้งก็ถึงขนาดจะสังหารพวกเดียวกันเองจากความเลินเล่อในภารกิจ แต่แท้จริงแล้ว ทีเอเรียเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวมากที่สุด สังเกตได้ชัดหลังจากที่เขาทำให้ล็อกออนต้องสูญเสียดวงตาไปข้างหนึ่ง ทีเอเรียแสดงความเสียใจอย่างมากต่อความประมาทของตนจนแม้แต่ล็อกออนที่เป็น ฝ่ายบาดเจ็บต้องมาปลอบด้วยตัวเอง
แต่แล้วเขาก็ต้องเริ่มสับสนต่อการปรากฏตัวของกันดั้มไมสเตอร์ทีมใหม่ ในเหตุการณ์การรบครั้งใหญ่จากการรวมตัวกันของสามขั้วอำนาจ เขาได้คอยสนับสนุนการโจมตีของพรรคพวกคนอื่นๆ อยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งถูกล้อมจับจากฝูงเฮลเลี่ยนซึ่งนำโดยแพทริก แต่เขาก็ได้รับการช่วยเหลือจากกันดั้มโทรเน่ไอน์ แต่เขาก็ได้สูญเสียสิทธิ์ในการติดต่อเข้าถึงข้อมูลของเวด้าอย่างลึกลับ จากนั้นได้เข้าช่วยเหลือเซ็ตสึนะในการรับมือกับสามพี่น้องทรีนิตี้จนล่าถอย ไป
ในช่วงการร่วมมือกันบุกโจมตียานปโทเลมีของกลุ่ม 2 ขั้วอำนาจ ด้วยเครื่อง GN-X ซึ่งเกิดเหตุการณ์ที่กันดั้มทั้งหมดไม่อาจจทำงานได้จากการเวด้าโดนแฮ็ก จนทีเอเรียเกือบจะต้องสังเวยชีวิตให้กับคมดาบของ GN-X แต่ก็ได้รับการช่วยชีวิตไว้จากล็อกออนและเครื่องดิวนาเมสที่เข้ามารับการโจม ตีแทน และเขาได้ร่วมต่อสู้กับไมสเตอร์ทั้งหมดเข้าต่อสู้กับกองกำลังของสหประชาชาติ และท้ายที่สุดเขาก็ต้องหลั่งน้ำตาให้กับการสูญเสียล็อกออนไป และเขาได้ใช้ร่างนาดเลห์อีกครั้งเพื่อต่อกรกับการบุกระลอกสองของกองกำลังสห ประชาชาติ ก่อนจะพลาดท่าให้กับ MA Alvatore และปลิวหายออกไปจากสนามรบและสูญหายไป แต่ก็ถูกตรวจพบโดย เฟลท์ เกรซ และได้กลับมาร่วมรบกับเซเลสเชียลบีอิ้งอีกครั้งในฐานะของนักบินเซราวีกัน ดั้ม
ในช่วงสุดท้ายของอนิเมซีซั่น 2 ทีเอเรียถูกรีวองส์ยิงเสียชีวิต ซึ่งเซ็ตสึนะคิดว่าสูญเสียทีเอเรียไปแล้วเนื่องจากเห็นร่างของทีเอเรียถูก ยิงด้วยกระสุนปืนหลายนัดลอยอยู่ในห้องของเวด้า จนกระทั่งทีเอเรียพูดออกมาตามช่องสื่อสารว่าเขายังไม่ตาย แต่เป็นการสูญเสียเพียงร่างกายเท่านั้น ส่วนจิตใจของเขาได้รวมเป็นหนึ่งกับเวด้า ดังนั้นเขาจึงสามารถควบคุมระบบสั่งการของเวด้าและสามารถทำให้กันดั้มเซราฟิม ของเขากำจัดเป้าหมายได้อีก ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างเขาและรีเจนเน่ เรเจนต้า อินโนเวเตอร์ไทป์เดียวกับทีเอเรีย(เป็นอินโนเวเตอร์ฝาแฝดหน้าตาเหมือน กัน)ซึ่งถูกรีวองส์สังหารเช่นกัน ทั้งสองคนช่วยกันบังคับให้หุ่นนับร้อยๆตัวของรีวองส์หยุดการทำงานและเปิดทาง ให้เซ็ตสึนะเข้าตัดสินกับรีวองส์ได้สำเร็จ
สำหรับทีเอเรียแล้ว การสูญเสียร่างไม่ได้หมายถึงการตาย เนื่องจากร่างกายที่เขาได้รับคือชีพจรข้อมูลอย่างหนึ่งเท่านั้น เพราะถึงจะไม่มีร่างกาย เขาก็สามารถเชื่อมต่อข้อมูลตนเองผ่านทางเวด้าไปให้คำแนะนำในห้องบังคับการ บินในตัวกันดั้มได้ เช่นในเดอะมูฟวี่ ทีเอเรียได้เป็นเหยื่อล่อกับฝูงบินปริศนาให้พวกไลล์พาตัวเซ็ตซึนะกลับยานไป ทิ้งร่างกายและกันดั้มปล่อยตัวเองกลับสู่เซิร์ฟเวอร์ของเวด้าและคอยเป็นผู้ แนะนำยุทธวิธีต่างๆผ่านทางคอมพิวเตอร์ให้กับปโทเลไมออส รวมทั้งการเชื่อมระบบกับดับเบิ้ลโอกันดั้มของเซ็ตซึนะ ทำให้เขาปรากฏร่างโฮโลแกรมพูดคุยกับเซ็ตซึนะโดยตรงได้
ในภาคภาพยนตร์จอเงิน ทีเอเรียกลับมามีตัวตนอีกครั้งเพื่อฟอร์มทีมกันดั้มไมสเตอร์รุ่นที่สามขึ้น มาใหม่ในสงครามครั้งสุดท้ายตามคำสั่งของทางเซเลสเชียลบีอิ้ง และได้ขึ้นขับกันดั้มตัวใหม่ที่ออกแบบมาเพื่ออินโนเวเตอร์โดยเฉพาะ มีลักษณะเพรียวบาง ตัวกันดั้มมีสีขาวเหลือบแดงชมพู แต่โดดเด่นด้วยกันแพ็คขนาดใหญ่ที่สะพายอยู่ด้านหลัง








































































































































































































Valvrave The Liberator


ดูท่าว่ากำลังจะมีอนิเมะหุ่นยนต์สนุกๆ แบบสมจริง (Real Robot) จากผู้สร้างกันดั้มจากสตูดิโอ Sunrise มาให้ชมกันอีกเรื่องแล้ว เมื่อได้มีการเปิดเว็บไซต์และปล่อย Teaser สั้นๆ ของอนิเมะเรื่องใหม่ที่ชื่อว่า Valvrave the Liberator ซึ่งจะเป็นออริจินัลอนิเมะ และมีกำหนดฉายในเดือนเมษายน 2013 อีกด้วย
 ซึ่งคิดว่านี่จะเป็นอีกเรื่องของ Sunrise ที่น่าติดตามไม่น้อยเลย เอาเป็นว่ามาดูรายละเอียดกันดีกว่า

ชื่ออื่น : Kakumeiki Valvrave (革命機ヴァルヴレイヴ)
Director : Matsuo Kou (Kure-nai, Natsuyuki Rendezvous, Mokei Senshi Gunpla Builders Beginning G, Rozen Maiden)
Series Composition : Okouchi Ichiro (Code Geass, Guilty Crown (Assist) )
Sub Series Composition : Miki Kazuma (Producer Sword Art Online, To Aru Kagaku no Railgun, OreImo),  Kuma Takeshi (Kuroshitsuji Anthology Comic)
Original Character Design : Hoshino Katsura (D.Gray-man)
Character Design : Suzuki Tatsuya
Mechanical Design : Okawara Kunio, Ishiwata Mokoto, Washio Naohiro
Animation Production : Sunrise


เรื่องย่อ

ในยุคสมัยที่ประชากรกว่า 70% ของมนุษย์ เลือกที่จะอาศัยอยู่ในอวกาศ มีการแบ่งฝ่ายออกเป็น 2 ฝ่าย คือ Dorssia Military Pact Federation และ Atlantic Ring United States (ARUS) โดยมีประเทศที่เป็นกลาง Jiouru ที่มีความรุ่งเรืองด้านเศรษฐกิจ วันหนึ่งฝ่าย Dorssia ได้มารุกรานประเทศฝ่ายเป็นกลางใน Module 77 ของ JIOR ด้วย เหตุผลบางอย่าง ทำให้ฮารุโตะ นักเรียนม.ปลายที่พยายามหลบหนี จนมาพบกับสิ่งที่เป็นอาวุธต้องห้าม ที่ถูกเรียกว่า “Valvrave” เมื่อเห็นกระสุนจากผู้บุกรุกยิงใส่โชวโกะ จนไม่พบร่างของเธอ ทำให้เขาตัดสินใจเลือกละทิ้งความเป็นมนุษย์ และขับ Valvrave I เข้าต่อสู้กับพวกศัตรู

ตัวละคร 

โทคิชิมะ ฮารุโตะ (Tokishima Haruto)

นักเรียนมัธยมปลายปี 2 เด็กหนุ่มจิตใจดีที่ไม่ค่อยชอบการต่อสู้ จิตใจอ่อนโยน ซึ่งทำให้โชโกะลำบากใจบางครั้ง เขาได้กลายเป็นนักบินของ Valvrave I ด้วยการละทิ้งความเป็นมนุษย์ไปเพื่อแก้แค้นให้โชโกะในตอนแรก ผลจากการต่อสู้ทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ของโรงเรียน เขายังได้ความสามารถในการกัดผิวหนังคนอื่นเพื่อสิงร่างคนอื่นได้

L-elf 
หนุ่มอายุ 17 ปี ตัวแทนจากกองทหารลับ ฉลาดหลักแหลม ทักษะการต่อสู้เป็นเลิศ และจริงจังกับหน้าที่มาก สามารถล้มทหารได้มากมายตามลำพัง ในตอน 3 ได้แสดงความสามารถในการพยากรณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้อย่างแม่นยำ เขาได้เผยความจริงกับฮารุโตะว่าต้องการปฏิวัติฝ่าย Dorssia ซึ่งถ้าฮารุโตะยอมทำสัญญากับเขา จะทำให้แผนการณ์เขารุดหน้าเร็วขึ้นประมาณ 5 ปี แต่ฮารุโตะก็ปฏิเสธ


ซาชินามิ โชโกะ (Sashinami Shouko)



นักเรียนมัธยมปลายปี 2 เพื่อนวัยเด็กของฮารุโตะ เป็นคนร่าเริงและสนิทกับคนอื่นทั้งชายหญิง ค่อนข้างหัวทึบ เมื่อทำอะไรไม่ถูกบ่อยๆ จะจับชายกระโปรงตัวเอง ก่อนจะทำอะไรบางอย่าง ซึ่งบางครั้งก็ทำแปลกจนคนอื่นรู้สึกประหลาด เผยในตอนที่ 4 ว่าเป็นลูกสาวของนายกรัฐมนตรีแห่ง JIOR และเป็นคนเสอนความคิดเรื่องที่แยก Module 77 ให้เป็นอิสระ


รูคิโนะ ซากิ (Rukino Saki)


นักเรียนมัธยมปลายปี 1 อดีตไอดอลชื่อดังในโรงเรียน เป็นคนที่ดูเยือกเย็น ไม่ชอบเข้ากลุ่มกับคนอื่น จึงชอบอยู่ตามลำพัง หลังตอนแรกก็เริ่มสนิทกับฮารุโตะ ลึกๆ มีอดีตที่ไม่ค่อยน่าจดจำอยู่


อินุซุกะ คิวมะ (Inuzuka Kyuma)


นักเรียนมัธยมปลายปี 3 เป็นเพื่อนที่เชื่อใจได้ของฮารุโตะ ฐานะไม่ค่อยดี มีความฝันจะเป็นเศรษฐีในอนาคต ค่อนข้างยึดติดกับเรื่องเงินมาก


ซากุไร ไอนะ (Sakurai Aina)
นักเรียนมัธยมปลายปี 1 สาวขี้อาย เป็นมิตรกับคนอื่นและสนิทกับคิวมะ


โนบิ มาริเอะ (Nobi Marie)


นักเรียนมัธยมปลายปี 2 เพื่อนสนิทของโชโกะ ถึงจะดูเด็กกว่าคนอื่นในเพื่อนร่วมชั้น แต่ค่อนข้างแก่แดดพอตัว


โอทามายะ ยูซุเกะ (Otamaya Yuusuke)


นักเรียนมัธยมปลายปี 2 ประธานของชมรมวัฒนธรรม มีความรู้เรื่องเครื่องจักรกลเป็นอย่างดี ช่วยเหลือในด้านการซ่อมบำรุงระบบต่างๆ ได้


ยามาดะ ไรโซว (Yamada Raizou)

 นักเรียนมัธยมปลายปี 2 อีกชื่อหนึ่ง คือ Thunder เป็นคนเลือดร้อนและจริงจัง ถูกมองเป็นคนไม่ดี แต่จริงๆ รักพวกพ้องมากและไม่อยากเห็นเพื่อนตายอีก


เร็นโบโคจิ ซาโตมิ (Renbokoji Satomi)

นักเรียนมัธยมปลายปี 3 ประธานนักเรียนที่ชาญฉลาด แต่ทำอะไรไม่ค่อยถูกเมื่อเจอวิกฤต


นิโนมิยะ ทาคาฮิ (Ninomiya Takahi)


นักเรียนมัธยมปลายปี 3 ประธานของชมรมกีฬาหญิง ภายนอกดูเป็นคุณหนูที่มีความมั่นใจสูงและนักเรียนหญิงคนอื่นเดินตาม แต่ลึกๆ ดูจะเป็นคนเป็นขี้อาย


เร็นโบโคจิ อากิระ (Renbokoji Akira)

สาวที่อาศัยในบ้านกล่องกระดาษภายในเขตโรงเรียน แฮ็คระบบสื่อสารต่างๆ ภายในโรงเรียนได้ รวมทั้งช่วยพวกพระเอกในบางครั้ง แต่ดูเหมือนจะไม่อยากพบคนอื่น เป็นน้องสาวของซาโตมิ


คิบุคาวะ ทาคุมิ (Kibukawa Takumi)


อาจารย์วัย 33 ปี ที่ดูจะไม่ค่อยสนใจอะไรรอบข้างมากนัก แต่เหมือนจะรู้จักกับด็อกเตอร์โทคิชิมะผู้พัฒนา Valvrave เป็นอย่างดี


นานามิ ริออง (Nanami Rion)

อาจารย์สาวทรงโต วัย 22 ปี ที่ป๊อบในกลุ่มนักเรียนชาย ถึงจะสนิทกับพวกนักเรียน แต่ดูจะไม่ค่อยรู้เรื่องที่ซับซ้อนนัก และต้องพึ่งอาจารย์ทาคุมิแทน

หุ่นยนต์ประจำเรื่อง

VALVRAVE I

รหัส: RM-011
สูง : 22.6 M (ถึงส่วนหัว : 19.9 M)
หนัก : 19.9 t
RM-011 Valvrave 1/VVV-I "ฮิโต"
Pilot: Tokishima Haruto